NEWS AND EVENTS

Haute Horlogerie Thailand (HH Watches Group)

BANGKOK INDEPENDENT WATCHMAKING EXHIBITION 2019 Part III

นาฬิกากลุ่มอินดิเพนเดนซ์ จะมีรูปแบบและลักษณะที่ไม่ตายตัว แต่สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์สำคัญก็คือ ความโดดเด่นในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ตามแล้วแต่แบรนด์นั้นๆ จะสรรค์สร้างผลงานขึ้นมาได้ ซึ่งทั้งสองแบรนด์อินดิเพนเดนซ์นี้ ก็เป็นอีกหนึ่งความโดดเด่นและสีสันของนาฬิกาในกลุ่มอินดิเพนเดนซ์ ที่จะนำมาจัดแสดงในงาน BIWE 2019 นี้ รวมทั้งสร้างนาฬิกาเรือนยูนีคพีซ เพื่อการประมูลสำหรับงานในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน

AZIMUTH เป็นแบรนด์นาฬิกาแนวอินดิเพนเดนซ์ ที่มีเวริ์คช็อปอยู่ในนูเชอเทล แหล่งผลิตนาฬิกาสำคัญแห่งหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ เลือกใช้เฉพาะและวิธีการพิเศษในการนำเสนอเรือนเวลาแบบต่างๆ ตั้งแต่ปี 2003 เป็นต้นมา โดยนาฬิการุ่นที่ทำให้ผู้คนจำนวนมากรู้จักกับ AZIMUTH ก็คือ Mr. Roberto นาฬิกาหน้าตาคล้ายหุ่นยนต์ ที่จำลองสไตล์การจัดวางแสดงเวลาตำแหน่งต่างๆ บนหน้าปัด จากแรงบันดาลใจของหุ่นยนต์ในยุค 60s ที่ความเป็นหุ่นยนต์ยังเป็นเพียงเครื่องจักร ที่ทำงานบางส่วนแทนมนุษย์เท่านั้น AZIMUTH นำเสนอความแตกต่างในหลายทิศทาง ซึ่งนอกจาก Mr. Roberto แล้ว ยังมีนาฬิการุ่น Spaceship ที่นำเสนอเรื่องราวของอวกาศ ผ่านเรือนเวลารุ่นนี้ ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของจินตนาการ และการผจญภัยในอวกาศตามสไตล์ภาพยนต์ไซไฟ และล่าสุดกับซีรี่ส์ที่ AZIMUTH นำเข้าสู่สนามแข่งขันรถยนต์ ที่นำพาให้แบรนด์ มุ่งสู่ความเป็นนาฬิกาสปอร์ตอย่างเต็มตัว KERBEDANZ แบรนด์นาฬิกาแนวอินดิเพนเดนซ์ ที่นำเสนอเฉพาะงานในแนวศิลปะ ทั้งการเลือกใช้วัสดุมีค่า งานการแกะสลัก งานอีนาเมล และงานการประดับอัญมณี ที่ถือได้ว่ามีความงดงามมากที่สุดแบรนด์หนึ่งในกลุ่มนาฬิกาแนวอินดิเพนเดนซ์ พร้อมกันนั้นยังโดดเด่นเรื่องของกลไก จากการนำเสนอนาฬิกาที่มีกรงตูร์บิยองที่ใหญ่ที่สุดและโดดเด่นที่สุดกลางหน้าปัดนาฬิกา

KERBEDANZ Tribute to Thailand มีตัวเรือนขนาด 46 มิลลิเมตร ที่ผลิตจากโรสโกลด์ พร้อมหน้าปัดโรสโกลด์ ที่ผ่านกรรมวิธีแกะสลักอย่างละเอียดและบรรจง ให้เกิดเป็นสีน้ำเงิน หลังจากนั้นจึงประกบแผ่นโรสโกลด์รูปทรงแผนที่ประเทศไทยเข้ากับพื้นสีน้ำเงินด้านล่าง จนกลายเป็นความโดดเด่นของประเทศไทย ที่ปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัดบนหน้าปัด โดยขั้นตอนทั้งหมด ตั้งแต่การตัดแต่งชิ้นงาน การแกะสลักด้วยมือในทุกชิ้นส่วน จนกระทั่งถึงขั้นตอนการตกแต่งจนสมบูรณ์ ทำขึ้นจากประสบการณ์และฝีมือของช่างนาฬิกาชั้นเลิศของ KERBEDANZ ทำงานด้วยกลไกอัตโนมัติคาลิเบอร์ KRB-023 โดยมีพลังสำรองลานนานถึง 120 ชั่วโมง สายนาฬิกาผลิตจากหนังจระเข้มิสซิสซิปปี้ฟอกและย้อมเป็นสีดำ ตัดกับตัวเรือนและหน้าปัดได้อย่างโดดเด่น สำหรับนาฬิกา AZIMUTH Thailand Edition Piece Unique GT จะมีราคารีเสริฟอยู่ที่ 165,000 บาท และ 1,320,000 บาท สำหรับ KERBEDANZ Tribute to Thailand โดยจะมีการประมูลนาฬิกาทั้งหมดขึ้นในช่วงต้นของการจัดงาน ส่วนผลงานเรือนจริงของนาฬิกาทั้งสองนี้ จะสามารถชมได้ในงานตั้งแต่วันที่ 4 ถึง 8 กันยายน ที่ชั้น G เกษรวิลเลจ พร้อมการพูดคุย และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ในเรื่องของนาฬิกาแนวอินดิเพนเดนซ์ กับช่างนาฬิกาและตัวแทนของแบรนด์ต่างๆ ได้อย่างลึกซึ้ง