ดังนั้น Manufacture Royale จึงสร้าง ADN Spirit ให้เด่นด้วยโครงสร้างภายในแบบสามมิติเชิงประติมากรรม ตามลักษณะของนาฬิการุ่นใหญ่ของแบรนด์ ทั้ง Opera และ Androgyne แต่มีความแตกต่างและพลังในรูปแบบของตัวเอง ด้วยตัวเรือนขนาด 46 มิลลิเมตร แต่ยังสวมใส่ได้สบายแม้ผู้ที่มีข้อมือเล็กๆ ด้วยขาตัวเรือนซึ่งสามารถปรับระดับให้เข้มกับทุกข้อมือได้โดยง่าย สกรูว์ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่โดดเด่นอีกจุดหนึ่งของการออกแบบ เน้นให้เห็นถึงลักษณะทางเทคนิคของตัวเรือน โดยองค์ประกอบหลักของโครงสร้างเพลทที่เห็นบนหน้าปัดยังคงเป็นส่วนที่ต้องเชื่อมต่อกับชิ้นส่วนสำคัญที่สี่ทิศทาง โดยด้านล่างเป็นเอสเคปเม้นท์วีล ด้านบนเป็นสปริงบาเรล ในขณะที่ด้านซ้ายเป็นส่วนของวงวินาที และขวาเป็นจุดยึดแกนเม็ดมะยมที่เป็นส่วนสำคัญที่สุดในการควบคุมเครื่องบอกเวลาเรือนนี้ และสำหรับวัสดุของตัวเรือน หลากหลายวัสดุที่บ่งบอกความเป็นนาฬิกาสปอร์ตถูกคัดเลือกมาใช้เกือบทั้งหมด 

ตั้งแต่แบบคลาสสิคสตีล สตีลดีแอลซี หรือแบบนวัตกรรมคาร์บอนไฟเบอร์ โดยตัวเรือนเชิงสถาปัตยกรรมกลไกนี้ จะถูกประกบไว้ด้วยคริสตัลแซฟไฟร์ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งแน่นอนว่าโครงสร้างและความสมมาตรของกลไกภายใน จะช่วยทำให้นาฬิกานี้โดดเด่นได้ยิ่งขึ้นบนข้อมือ ซึ่งทีมงานวิจัยและพัฒนากระบวนการผลิตของ Manufacture Royale ต้องใช้ความเชี่ยวชาญและเครื่องจักรแบบ 5 แกนในการผลิตโครงสร้างภายในซึ่งเป็นวิธีเดียวที่จะสามารถผลิตรูปทรงและมุมต่างๆ ที่ซับซ้อนเช่นนี้ได้ เพราะเมื่อสปริงบาร์เรลและเอสเคปเม้นท์วีลทำงาน ผู้สวมใส่จะสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนที่ของเกียร์ชุดต่างๆ บนหน้าปัด ในการที่จะช่วยกันส่งพลังงานเพื่อขับเคลื่อนเฟืองเกียร์ในการแสดงเวลาได้อย่างชัดเจน ทางด้านเทคนิค กลไกคาลิเบอร์ MR010 ชุดนี้เป็นกลไกไขลานด้วยมือ แสดงเวลาชั่วโมง นาที กลางหน้าปัด และวินาทีในเคาน์เตอร์ย่อยที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา เดินด้วยความถี่ 28,800 รอบต่อชั่วโมง และมีพลังงานสำรองลาน 48 ชั่วโมง โดยนาฬิการุ่นนี้มีแบบตัวเรือนให้เลือกหลากหลาย โดยผสมผสานระหว่างวัสดุแบบดั้งเดิมและวัสดุแบบไฮเทค พร้อมสายหนังแบบกันน้ำ หรือสายผ้าใบแบบกันน้ำ ที่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ